“ประไพสิทธิ์” บิ๊กบอส “โบ๊ทเฮ้าส์หัวหิน” ทุ่มเทกับ Green Environment จนชนะรางวัลระดับโลก

คำว่าแชมป์นั้นเป็นไม่ยาก แต่การรักษาแชมป์นั้นยากยิ่งกว่า เปรียบเปรยแล้วก็เข้าทำนอง “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” การจะเป็นตัวจริงได้ขึ้นอยู่กับความพากเพียรและความสม่ำเสมอ ดังเช่นความสำเร็จในวันนี้ของโครงการบ้านพักตากอากาศและคอนโดมีเนียมสุดหรูของไทยที่เพิ่งได้รับรางวัลระดับโลกไปหมาดๆ จากเวที  “อินเตอร์เนชั่นแนล พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ด” ประเทศอังกฤษที่มอบให้กับ “โครงการโบ๊ทเฮ้าส์หัวหิน” ในสาขาการพัฒนาสถานที่พักผ่อนในประเทศไทยระดับสุดยอด

แน่นอนว่าความสำเร็จบนเวทีระดับอินเตอร์ ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ฟ้าประทาน หรือแรงผลักดันจากการโปรโมท หากแต่มาจากหยาดเหงื่อ แรงกาย และความทุ่มเทของทีมงานที่นำโดย คุณหมู-ประไพสิทธิ์ ตัณฑ์เกยูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทเฮ้าส์ หัวหิน จำกัด  แม้ตอนนี้จะออกปากว่าอยู่ในวัยใกล้เกษียณแล้ว แต่ทว่าหัวจิตใจและหัวสมองนั้นยังฟิต!! เพราะขนาดโครงการฯแถวหัวหิน สมัยนี้ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด แต่ก็ยังอุตส่าห์ตีฝ่าวงล้อม ทำให้โบ๊ทเฮ้าส์หัวหินโดดเด่นจนได้รับรางวัลระดับโลกมาครอบครอง โดยคุณหมูออกปากเล่าให้ฟังในวันสบายๆ ว่า

“โบ๊ทเฮ้าส์หัวหินมีจุดเริ่มต้นจากความที่ชอบหัวหินเป็นหลัก รู้สึกผูกพันตั้งแต่เด็ก รุ่นพ่อรุ่นแม่ก็ชอบ พอมาถึงผมมีโอกาสได้มาพัฒนาพื้นที่ติดทะเล 78.5 ไร่ที่เป็นโครงการโบ๊ทเฮ้าส์นี้โดยใช้ประสบการณ์ความรู้จากการทำสินเชื่อโครงการมาใช้โดยสมัยก่อนทำงานอยู่ 10 ปีที่ Citibank กรุงเทพก็รับหน้าที่ดูสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ซึ่งแต่ก่อนยังไม่เฟื่องฟูขนาดนี้ ธนาคารส่งไปเทรนด์ที่สิงคโปร์, ฮ่องกง, นิวยอร์ค, ชิคาโก, แอลเอ, ซิดนีย์ จบกลับมาก็เข้ามาดูแลด้านนี้เต็มตัว แล้วจึงมาเป็นผู้บริหารของกลุ่มธนาคารกรุงศรีฯ พร้อมกับชาลอต โทณวณิก ก็ได้ดูแลอนุมัติสินเชื่อโครงการอสังหาริมทรัพย์จำนวนเป็นพันราย พอมีความรู้ ดูทำเลและความเป็นไปได้ของโครงการออก พร้อมกับพอจะคาดการณ์แนวโน้มในอนาคตได้ ผมก็เลยลาออกมาลุยงานอสังหาฯ ด้วยตัวเอง”

โปรเจคต์แรกก็จัดเต็ม  โบ๊ทเฮ้าส์หัวหิน 80 ไร่

“สมัยปี 47-48 นั้นราคาพื้นที่ริมชายหาดชะอำติดแดนหัวหินจะยังไม่สูงมากและสามารถสร้างตึกสูงๆได้แปลงใหญ่ๆราคาไร่ละ 3 ล้านบาท นักลงทุนมีน้อยและบรรดานักพัฒนาส่วนมากยังไม่ค่อยเห็นความน่าสนใจในการลงทุนหรือมั่นใจในอนาคตของหัวหินนัก แต่ผมค่อนข้างมั่นใจในศักยภาพของพื้นที่เป็นอย่างมาก เลยจัดหนักกว้านซื้อมาเกือบแปดสิบไร่ เรื่องเงินทุนไม่ต้องพูดถึง ไม่พอแน่ เลยชวนรุ่นน้องอัสสัมชัญ ที่สนิทกันตั้งแต่สมัยทำงานที่ Citibank คือ คุณสมเกียรติ ชินธรรมมิตร์ ลูกชายคุณพ่อสมพงษ์ที่ผมนับถือมากว่าเป็นคนดีมาช่วยกันพัฒนาโดยผมเป็นผู้นำในการออกแรงกายและสมองกับคอนเน็กชั่น  ซึ่งครอบครัวคุณพ่อสมพงษ์ก็กรุณาให้ความไว้ใจ ลุยโปรเจคต์กัน สมัยเริ่มต้นนั้นต้องพบกับปัญหามาเฟียท้องถิ่นการบุกรุกที่ดินการรังวัดที่ผิดพลาดมากในอดีตเป็นต้น หัวใจของโครงการคือเริ่มการออกแบบซึ่งก็ได้รับเกียรติจาก มล.ตรีทศยุทธ เทวกุล สถาปนิกที่มีชื่อเสียงจากฮาวาร์ดและได้รับการยอมรับในระดับโลกและเป็นผู้ทำให้เกาะภูเก็ตติดแผนที่ท่องเที่ยวของโลกเป็นผู้ออกแบบองค์รวมให้ และหม่อมหลวงตรีฯเองก็เป็นผู้พัฒนาอาคารชุดริมหาดหัวหินเป็นคนแรกในนามบ้านตรีทศจึงมีแรงบันดาลใจเพราะเสด็จปู่ของท่านก็มีบ้านริมทะเลที่นี่ ท่านก็กรุณาออกแบบองค์รวมให้โครงการฯสะท้อนการเป็นสังคมที่มีระดับมี Class ในสไตล์ Mass Luxury และ Affordable Elegance (ความหรูที่คนส่วนมากร่วมกันเป็นเจ้าของได้) ที่โดดเด่นเน้นสวนสวยพร้อมสระว่ายน้ำและพื้นที่ส่วนกลางเกือบ 50% ของพื้นที่ดินทั้งหมดจึงเป็นเอกลักษณ์จนถึงทุกวันนี้และยังคงความงามที่แตกต่างจากคู่แข่ง

เราโชคดีที่ได้ Christiani & Neilsen มาเป็นผู้ก่อสร้างสาธารณูปโภคและบ้าน Villa ให้ และหม่อมหลวงตรีฯท่านก็แนะนำท่านอาจารย์วีระพันธ์ ไพศาลนันท์ จากสถาปัตย์ฯจุฬามาเป็นผู้ออกแบบ Landscape  ที่เหมาะกับชายทะเลให้และขณะนี้ท่านก็ยังทำให้หลายโครงการชั้นนำในหัวหิน เรามีปฎิมากรรมแห่งความอุดมสมบูรณ์ขนาดใหญ่ 16 ชิ้นที่ประดับด้วยกระเบื้องลายครามแสดงสัญลักษณ์มงคล 108ประการของจีน ซึ่งรังสรรโดยคุณวศินบุรี สุพาณิชวรภาชน์ ผู้ได้รับรางวัลศิลปาธรปี 2007 ประดับสวนริมทะเล ส่วน Club House ขนาด 1000 ตร.ม.ใกล้ทะเลก็ได้พี่เปี๊ยะ (รุจิราภรณ์ หวั่งหลี) มารังสรรให้พร้อมกับตกแต่งห้องตัวอย่างของ Villa+อาคารชุดให้ด้วย การดูแลรักษาสระว่ายน้ำรูปทรงอิสระขนาด 12 เท่าสระโอลิมปิกของเราก็ได้ ส.นภา ของคุณศศินา นภาศัพท์ เป็นเจ้ามือดูแลมาตลอด 6 ปีเป็นที่ไว้ใจได้ในคุณภาพและการใส่ใจดุจญาติสนิท

การดูแลจัดการที่โครงการซึ่งเป็นเรื่องยากสุด ต้องดูแลควบคุมเจ้าหน้าที่หลายสิบคนเพื่อให้บริการแก่ลูกบ้านอย่างมืออาชีพเพราะเรามีฝรั่งซื้ออยู่ในโครงการประมาณ 20% เรามีรถตู้ติดแอร์ให้บริการเข้าออกสู่กลางเมืองหัวหิน และมีร้านอาหารเปิดบริการในคลับเฮ้าส์ให้ในช่วงวันหยุดราชการให้ด้วย และใกล้กับหน้าโครงการริมทะเลก็มีร้านอาหารชมทะเลเปิดให้บริการตลอดและเรามีให้กระทั่งบ้านหมาแมวให้พักในโครงการเพื่อความสะดวกและความสะอาดและสุขอนามัยแก่ผู้อยู่อาศัยร่วมกัน มีบริการจักรยานให้ถีบและห่วงยางให้ลูกบ้านเล่นน้ำ และมีการร่วมกันทำบุญเลี้ยงพระและมี Party เก๋ๆสังสรรค์กับลูกบ้านกันทุกสงกรานต์ เพราะเราต้องการสร้างชุมชนที่มีคุณภาพชีวิตมีความรักและผูกพันเสมือนครอบครัวเดียวกันและเพื่อบ้านที่มีคุณค่าที่คุ้มค่าการลงทุนระยะยาวชั่วลูกชั่วหลานในย่านนี้

ดีไซน์คอนเทมโพลารี่ไทย ในแบบที่ชนะใจสากล

แม้งานดีไซน์มีอายุของมัน แต่ผลงานของหม่อมหลวงตรีฯ งามอย่างอมตะจริงๆ ตอนออกแบบโบ๊ทเฮ้าส์ หม่อมหลวงตรีท่านก็กรุณาให้คำแนะนำว่าไหนๆ ก็มีพื้นที่มากขนาดนี้แล้ว นอกจากมีสวนสวยๆด้วย Landscape และปฎิมากรรมเก๋ๆแล้ว ให้ใช้จุดสระว่ายน้ำไร้ขอบริมทะเลตรงทิศตะวันออกเป็นจุดเชื่อมโยงกับสระว่ายน้ำ Free Form ขนาด 15,000 ตร.ม. ให้ผ่านหน้าบ้านทุกหลังและผ่านใกล้ทุกอาคารชุดไปเลย เพราะฉะนั้นโครงการจึงกลายเป็นตำนานที่มีคลาส จะมีบ้านหรูสไตล์วิลล่าและสไตล์โมเดิร์นในราคาย่อมเยาว์ให้เลือก 110 หลังและอาคารชุด 5 อาคารซึ่งสร้างเสร็จแล้ว 3 อาคาร  ซึ่ง 2 อาคารแรกมีกลิ่นอายของสไตล์ Contemporary ส่วนอาคารชุดที่สามในพื้นที่ส่วนกลางในอาคารชุดเป็นสไตล์โคโรเนี่ยลแบบอังกฤษซึ่งรังสรรโดย ม.ล.ภูมิใจ ชุมพล ซึ่งโดนใจลูกค้าคนไทยมากเพราะคนเริ่มไม่ตื่นเต้นกับ Contemporaryแล้ว ขณะที่คู่แข่งขณะนี้ส่วนมากจะเป็นสไตล์ Morocco, Mediterranean, Greece เป็นต้น ส่วนอาคารชุดหลังที่ 4 ชื่อ The Legend นั้นจะเริ่มสร้างต้นปีหน้าโดยห้องตัวอย่างเสร็จแล้วในสไตล์ Provence ของฝรั่งเศสซึ่งงดงามมากมีแบบ 2ห้องนอน 66 ตร.ม.ที่ประมาณ 5 ล้านบาท ส่วนอาคารชุดหลังสุดท้ายในอนาคตก็คงออกสไตล์ฝรั่งเศสโดยมีคุณไชยรัตน์ ณ บางช้าง เป็นมัณฑนากรสำหรับพื้นที่ส่วนกลางให้ในสไตล์ Art Deco ร่วมสมัย

ชู Green Environment  ทุ่มอย่างฉลาดในการดูแลรักษา!!

ธรรมชาติเป็นสิ่งที่ดีที่สุดก็จริง แต่ทุกวันนี้การักษาพื้นที่สีเขียวให้งามถาวรเป็นเรื่องยากมาก ครั้นจะยกธรรมชาติเข้ามาก็ไม่ใช่เป็นเรื่องง่าย ทั้งต้นไม้ น้ำ ปุ๋ย มีต้นทุนทั้งนั้น แต่โบ๊ทเฮ้าส์หัวหินไม่ได้เกิดจากแนวคิดสร้างชุ่ยๆ ขาย แล้วจบไป เรามุ่งสร้างสรรค์โครงการที่มีระดับใส่ใจในการสร้างสังคมคุณภาพ จึงให้ความสนใจกับการดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ  แต่ละวันมีทีมงานทั้งของโบ๊ทเฮ้าส์และบริษัท Knight Frank กว่า 60 คนเข้ามาดูแลระบบต่างๆ คุณหมูใช้ความละเอียดและความพอดีที่เรียนรู้มาเริ่มจากการเป็นนักเรียนอัสสัมชัญที่เคยเห็นบราเดอร์ฮีแลร์ก้มเก็บเศษขยะบนพื้นที่ท่านเดินผ่าน ทำให้คุณหมูก็ใส่ใจและก้มเก็บเศษกระดาษในโครงการเสมอเช่นกันและใช้ทักษะในการเป็นคนช่างสังเกตปรับปรุงความไม่เป็นระเบียบให้งดงามสะอาดขึ้นอยู่เสมอหรือ Lead by Example ความใส่ใจที่จะถ่ายทอดความรู้สึกรับผิดชอบร่วมกันและผัสสะที่จำเป็นนี้ได้รับการถ่ายทอดสู่เพื่อนร่วมงานเสมออย่างที่ฝรั่งสอนว่าให้ Train the Trainer เพื่อให้ทีมงานดีขึ้นเรื่อยๆอย่างเป็นธรรมชาติทำงานอย่างมืออาชีพด้วยใจรักไม่เพียงแต่ work hard แต่ต้องรู้จัก work smart ด้วย

ทุกวันอังคารก็จะมีการประชุมร่วมของผู้บริหารจากกรุงเทพที่โครงการเป็นประจำเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาในสถานที่จริง อีกตัวอย่างของการรับผิดชอบต่อสังคมคือการสร้างบ่อหน่วงน้ำฝนขึ้นด้านหน้าโครงการโดยตลอดเพื่อลดโอกาสที่น้ำจะท่วมถนนเพชรเกษมในช่วงดังกล่าว ปรับปรุงทัศนียภาพ ของสองข้างถนนให้งดงามและดึงเทศบาลชะอำเข้ามาให้บริการเก็บขยะแก่ชุมชนรอบโครงการ ปลูกต้นไม้ใหญ่โดยรอบโครงการเพื่อลดสภาวะโลกร้อน และใช้น้ำที่ Recycle ในการลดน้ำต้นไม้เป็นต้น

อนาคตมีแผนที่จะทำอะไรต่อให้กับโครงการโบ๊ทเฮ้าส์หัวหิน

          ทุกวันนี้ที่ทำอยู่อย่าง Green Environment สำหรับโครงการในแนวราบ และพื้นที่สาธารณูปโภคและส่วนกลางซึ่งคิดเป็นครึ่งหนึ่งของพื้นที่ทั้งโครงการก็ได้รับการดูแลอย่างดีพยายามใช้ปุ๋ยอินทรีย์ให้มากที่สุดและเน้นความชุ่มชื่นในโครงการ ยากที่จะหาโครงการอื่นๆในลักษณะเดียวกันมาเปรียบเทียบ เนื่องด้วยขนาดพื้นที่ขนาดการลงทุนกว่าห้าร้อยล้านบาทในสาธารณูปโภค, สระว่ายน้ำและระบบไฟฟ้าลงใต้ดินและอื่นๆของโครงการเช่นต่างประเทศ ความพร้อมและความชำนาญในการบริหารจัดการของทีมงานที่ผ่านมา 6 ปีและระบบนิเวศน์ที่เริ่มเข้าที่แล้ว หากรายใหม่จะมาพัฒนาให้ใกล้เคียงได้ก็คงไม่ง่ายและใช้เวลา รางวัลระดับโลกที่ได้เป็นเหมือนกำลังใจและเครื่องเตือนใจให้เราดูแลโครงการฯ ให้ดียิ่งขึ้นตลอดไป แม้การรักษายากยิ่งกว่าการสร้างขึ้นมา แต่เราก็จะทำมันให้ได้!!

อนาคตนอกจากสิ่งแวดล้อมและทัศนียภาพภายในโครงการแล้ว ความตั้งใจที่อยากเพิ่มให้กับโครงการฯ ของตัวเองคือ วางระบบที่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการที่จะรักษาความงามและโดดเด่นของโครงการเพื่อคุ้มค่าการลงทุนของผู้อยู่อาศัยยิ่งๆขึ้นตลอดไป

 

เช่นนี้แล้วคงการันตีได้ว่า “โบ๊ทเฮ้าส์หัวหิน” จะเป็นวิมานบนดินไปอีกนานแสนนาน … ส่วนใครที่ยังไม่ได้สัมผัสความงามของโครงการฯ ที่ได้รับรางวัลระดับโลก ล่องหัวหินวันไหนก็แวะไปชมกันได้ ถูกใจจะจับจองเฟสใหม่ “เดอะ เลจเจ้นท์ฯ” ให้คนอื่นอิจฉาเล่นๆ ก็ไม่ว่ากัน !!