เที่ยวอุดรธานี จังหวัดสะอาด ปี 2563 ชมแหล่งอันซีนทางธรรมชาติและศาสนา

“ตั้งแต่ปี 62 ถึงปี 63 ก็ 1 ปีพอดี อุดรเป็นเมืองที่สนุกสนานมากกับการทำผลงานให้ได้ตามความต้องการของพื้นที่ เพราะอุดรเป็นเมืองใหญ่ อยู่เฉยไม่ได้ เกียร์ว่างไม่มี” นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร   ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ให้สัมภาษณ์

ถ้าเอาในเรื่องของกายภาพก็มีการพัฒนาเมืองในเรื่องของการ ทำให้เป็นเมืองที่สะอาดที่สุดในประเทศไทย แล้ว ก็การเติมสีสันความสวยงาม ให้กับเมือง เพื่อที่จะเชื่อมต่อกับมิติของการพัฒนาเศรษฐกิจ คือเรื่องของการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเมืองที่คนมาเที่ยวเยอะอยู่แล้ว แต่เราจะก้าวไปให้ไกลกว่านั้นก็คือ ทำให้มีจุดดึงดูดลูกค้า นักท่องเที่ยวให้มากขึ้น และทำให้เขากลับมาอีก”

“จุดดึงดูดโดยธรรมชาติของเรา คำชะโนด ของเราเยอะอยู่แล้ว ปีหนึ่ง สามล้านหกแสนคน ทะเลบัวแดง ปีหนึ่งหลายแสน วัดป่าภูก้อน วัดป่าต่างๆ เราทำให้ทุกที่สะอาด สวย มีสีสัน ทั้งเรือนดอกไม้ และการทาสีอาคารของเมืองต่างๆ เพื่อให้เป็นจุดดึงดูดคน ตรงนี้เราเร่งทำกันภายในเวลา 6 เดือน แล้วก็ทำให้สร้างความสนใจสำหรับผู้ที่เคยมาและผู้ที่เห็นตามโฆษณา ตามเวบ ตามสิ่งต่างๆ แล้วไม่เคยมา ให้อยากมา ก็จะทำให้เกิดเศรษฐกิจที่หมุนเวียนภายในมีการกระจายรายได้คืนสู่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกๆ กลุ่ม กิน ช้อป แชะ ใช้ เงินมันต้องหล่นตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัดอุดรธานี ปีที่ผ่านมาในจังหวัดอุดรธานี มีการเปลี่ยนแปลงในเชิงสร้างสรรค์เยอะ”

              “สิ่งที่เราจับ จุดยืนของเมือง เราทำกันมาตลอด ในเรื่องของการค้าการลงทุน การท่องเที่ยวต่างๆ เราเป็นศูนย์การของการติดต่อสื่อสาร ในภูมิภาคอีสาน 20 จังหวัด และจีเอ็มเอส คือลาว เวียดนาม จีนตอนใต้ ตรงนี้มันสะดวกในเรื่องของการมาลงทุน เราขับเคลื่อน นิคมอุตสาหกรรมที่มีอยู่ ไว้เป็นฐานของการสร้าง งานให้กับคนอุดร เราเดินหน้ามาไกลแล้ว และเราได้ยกระดับของเมืองอุดร จากเมืองท่องเที่ยวที่เดิมเคยบอกว่าเป็นเมืองรอง ปีนี้ได้อัพเกรดตัวเอง เป็นเมืองหลักที่จะทำให้ เกิดการยกระดับการ ให้บริการ การท่องเที่ยว ในทุกๆ มิติ เราพัฒนาเมืองของเรา ซึ่งเราเคยบอกว่าเรามีโรงงานเยอะแยะแต่เราไม่เคยถึงขั้นเสนอตัวเป็นเมืองไมซ์ซิตี้ เมืองของการประชุม ปีนี้เราทำได้แล้ว และน่าจะได้รับการประกาศออกไปเร็วๆ นี้ ก็จะทำให้มีคนสนใจ มาเมืองอุดรของเรามากขึ้น ไม่ได้เน้นเรื่องการท่องเที่ยวอย่างเดียว การประชุมสัมมนา การแสดงนิทรรศการต่างๆ”

โอกาสนี้ทาง จ.อุดรธานี ได้เปิดเมือง พร้อมเชิญคณะสื่อมวลชนจากส่วนกลาง เข้าร่วมกิจกรรม       พาสื่อมวลชนเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสร้างจุดขายด้านการท่องเที่ยว ระหว่างวันที่ 15-16 ก.ย. 63 เพื่อช่วยกันทำข่าวประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กับจังหวัด

สำหรับ จ.อุดรธานี มีคำขวัญประจำจังหวัด กรมหลวงประจักษ์สร้างเมือง ลือเลื่องแหล่งธรรมมะ อารยธรรมห้าพันปีธานี ผ้าหมี่ขิด ธรรมชาติเนรมิตทะเลบัวแดง แรงศรัทธาศรีสุทโธปทุมมา คำชะโนด ทันทีที่คณะสื่อมวลชน เดินทางถึงสนามบิน อุดรธานี ได้มุ่งหน้าสู่ อ.บ้านดุง เพื่อไปยัง คำชะโนด (เวลา 1.30 ชม.) จากนั้น นายอำเภอบ้านดุง ได้นำคณะ เข้าสักการะภายใน คำชะโนด และเชิญให้เลือกซื้อสินค้าชุมชน สำหรับวัดศิริสุทโธคำชะโนด เป็นวัดที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นที่อยู่ของพญานาคและเป็นทางเชื่อมต่อเมืองบาดาล ปกครองรักษาโดยพญานาคราชปู่ศรีสุทโธและองค์แม่ศรีปทุมมานาคราชเทวี และมีตำนานลี้ลับอันโด่งดัง (รอยต่อระหว่างเมืองมนุษย์กับเมืองบาดาล) จุดหลัก 3 จุด บูชาเจ้าปู่เจ้าย่า นาคศรีสุทโธและนาคีศรีปทุมมา จุดที่สอง บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ จุดที่สาม ต้นมะเดื่อยักษ์ อายุกว่า 100 ปี

ช่วงบ่าย แวะบ่อเกลือบ้านดุง บ่อเกลือสินเธาว์ 3000 ไร่ พร้อมเชิญชวนทำสปาเกลือ เพิ่มความสุขในการดูแลผิว

จากนั้นชมแหล่งท่องเที่ยวอันซีนธรรมชาติ ล่องแพน้ำพาน ที่เที่ยวคลายร้อนสุดฟินของอีสานเหนือ ภายในเป็นอ่างเก็บน้ำ ชมทัศนียภาพของป่าและชุมชนที่สวยงาม ควรค่าแก่การมาเช็คอินสักครั้ง

วันที่สอง เดินทางสู่งาน ปทุมมาเบ่งบาน เที่ยวห้วยสำราญสุขใจ ณ วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ไม้ดอกไม้ประดับ บ้านห้วยสำราญ-ห้วยเจริญ ต.หนองไฮ อ.เมือง จ.อุดรธานี ชมแปลงดอกปทุมมา 13 สายพันธุ์ เบ่งบานรับหน้าฝน รอนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม ณ บ้านห้วยสำราญ-ห้วยเจริญ (นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวชมไปจนถึงสิ้นเดือน ต.ค.63)

จากนั้นเดินทางสู่ อ.หนองวัวซอ เยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวอันซีนเชิงศาสนา        วัดภูตะเภาทอง จุดเด่นที่มีความศักดิ์สิทธิ์ “พญานาคราชสีทอง” และ “รอยฝ่ามือแดง”

และไหว้พระใหญ่       วัดเขาช่องชาด ทัศนียภาพงดงาม ชมวิวสามเมือง อุดร ขอนแก่น หนองบัวลำภู

ท้ายสุด ท่านผู้ว่าฯ กล่าวสรุปปิดท้าย ขอบคุณชาว จ.อุดรธานี และเชิญชวนนักท่องเที่ยว           “สำหรับอุดรธานี ผมเรียนตรงๆ ว่า เป็นเมืองที่มีความร่วมมือสูงมากๆ หลายๆ อย่างที่ทำสำเร็จ เกิดจากความร่วมมือของพี่น้องประชาชน ผู้ว่าคนเดียวทำไม่ได้หรอกครับ จบมาจากไหนก็ทำไม่ได้ เราไม่เน้นการใช้ระบบฮีโร่ แต่เราเน้นเรื่องการสร้างทีม ทีมที่สำคัญก็คือมาจากไหน คือราชการ ภาคเอกชน ที่สำคัญที่สุดคือภาคประชาชน อันนี้ให้น้ำหนักมากๆ เลย เพราะถ้าประชาชนไม่ออกมามีส่วนร่วม ฝ่ายราชการกับเอกชน บริษัท ห้าง ร้าน โรงงานมาทำ แล้วเมื่อไม่ทำมันก็หยุด แต่เมื่อฝ่ายประชาชนเขาออกมาก็ไม่ต้องหวั่นเวลาราชการ แล้วก็ช่วยกันทำ และก็ทำได้ทุกพื้นที่โดยไม่ต้องมีงบประมาณ

คือ เสน่ห์ของอุดรธานี ผมว่านี่คือเสน่ห์ของอีสานทั้งภาค คนเขาน่ารัก ถ้าพูดให้เข้าใจว่าอะไรคือประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ประโยชน์ของคนในแผ่นดิน คนอีสานออกมามีส่วนร่วมจำนวนมาก และปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคมนาคม การมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร แหล่งท่องเที่ยวเชิงศรัทธา รวมถึงผู้คนที่ยิ้มแย้ม จังหวัดอุดรธานี มีครบทั้งหมดครับ อยากบอกว่าเราพร้อมแล้วสำหรับการเป็นเมืองไมซ์และก้าวสู่การเป็นเมืองหลักด้านการท่องเที่ยวแล้ว