เตือนภัย อุทาหรณ์ก่อนโอน มิจฉาชีพแฮคไลน์ยืมเงินกลับมาระบาด!!

ถูกกหลอกให้โอนเงิน!!

ยามนี้สถานการณ์เลวร้าย แต่มิจฉาชีพก็ยังไม่มีจิตสำนึก หาทางหลอกเอาเงินจากกระเป๋าคนอยู่ร่ำไป

ล่าสุดมีการแฮก หรือโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล เข้าทาง ไลน์ และ เมสเซนเจอร์ ของบุคคลนั้น แล้วส่งไปยืมเงิน

รูปแบบล่าสุด  จะเป็นเงินจำนวนไม่มาก ใช้คืนเย็นนี้เลย และพุ่งเป้าไปที่เพื่อนสนิท ซึ่งคาดว่ามิจฉาชีพจะอาศัยความเชี่ยวชาญในการดูระบบ เจาะฐานข้อมูล แล้วดูว่าเจ้าของแอ๊คเคาท์นั้นๆ มีการปฏิสัมพันธ์กับผู้ใดเป็นพิเศษ เคยโอนหรือทำธุรกรรมการเงินกับใคร เพื่อนสนิทสมัยเรียน ที่ทำงาน จากประวัติต่างๆ ที่ให้ไว้ของแต่ละคนนั่นเองที่เป็นข้อมูลสำคัญ

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (วันที่ 30 ก.ค. 64) มีอีกเคสเตือนภัย เป็นอุทาหรณ์ก่อนโอน

(ข้อมูลจากเฟสบุ๊คของ poranuch.vorakitpokathorn)

ได้โพสต์ข้อความประกาศบนหน้าเฟสบุ๊ค  ดังนี้

บันทึกประจำวัน 30 ก.ค.

ในวันที่โดนแฮกไลน์

การทำงานผ่านไลน์ ยอมรับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปแล้ว ข้อมูลต่างๆ เก็บไว้เหมือนกล่องดวงใจ

10 โมงเช้ากำลังจะส่งงานให้ลูกค้าสำคัญสุดๆๆ เอ๊ะทำไมไลน์หลุด เข้าอีก ก้อเข้าไม่ได้ โลว์เทค ต่อว่าตัวเองพักนึง

ปัญหาคือ มันฉลาดมากแฮกไลน์ แล้วทำมือถือพักอีก ต้องบู้ทเครืองใหม่ทั้งหมด 10 นาที แล้วข้อมูลต่างๆ หายไป พยายามเข้าไลน์เก่าให้ได้มันทำไม่ได้แล้ว กว่าเราจะตัดใจเปิดไลน์ใหม่ ตัดสินใจอยู่นาน ข้อมูลดังทองคำ

สายโทรศัพท์เริ่มโทรหาเรื่อยๆ ว่ามีปัญหาอะไรโทรมาจะเอาเงิน, นี่โดนแฮกไลน์แล้ว กลโกงของมิจฉาชีพตัวแสบ เริ่มจาก

1. โทรหา ทำเป็น miss call แลดูรีบๆๆ

2. ส่งข้อมูลต้องโอนเงินด่วน แปลว่าด่วนมากมีความจำเป็น

3. จะรีบโอนคืนตอนบ่าย ดูมีความรับผิดชอบ

เอาละตั้งสติใหม่ใจคิดว่าใครจะโดนหลอกบ้าง

1. โทรหาคนสำคัญในไลน์กลุ่มใหญ่ เพราะติดต่อมากสุด

2. เขียน FB อย่างน้อยก้อหว่านไปก่อน

3. โทรหาคนที่เพิ่งคุยกันวันสองวันนี้ให้รู้ตัวก่อน

ถ้าคนรู้จักเราดีเราไม่ยืมตังคนนะ ถ้ายืมคงไม่เอาเท่านี้หรอกกะจอกไป ขายขี้หน้า

สรุปวันนี้ทั้งวันพอจะคำนวณได้

1.คนที่ได้รับ message 20คน

2. เหยื่อโอนเงิน 2 คน

คิดเป็น 10 เปอร์ ได้เงินไปละ 8,000 บาท

มิจฉาชีพถ้ามันใช้เวลาในการทำงานต่อวันๆละ 1 ชม. ก่อนเหยื่อจะรู้ตัว ได้ไปละ 8,000 บาท คิดว่ารายได้เป็นไง ไม่แย่นะ

ไอ้คนถูกหลอก ทั้งโมโห ทั้งโดน discredit แล้วยังตัองไปโมโหกับ สน.อีกทีทำอะไรก้อช้าไปหมด เหนื่ยหน่ากับระบบราชการ สุดท้ายทำได้เพียงบันทึกประจำวัน และคาดว่าคงไม่มีอะไรคืบหน้า บอกเลยมิจฉาชีพ ย่ามใจ เพราะมันฉลาดกว่าตำรวจหลายขุมนัก ( คนลงบันทึกประจำวันยังใช้คอมไม่ถนัดเลย บอกเคสแบบนี้มีทุกวัน ช่วงนี้มีแบบนี้เยอะมาก ก้อมันต้องเยอะไง คนมันจนทั้งประเทศแล้ว โควิด คนก้อกลัว ทำมาหากินไม่ได้ ก้อต้องขโมยกันแล้วนี่ )

ฝากให้ทุกคนรักษาเนื้อ รักษาตัว รักษาเงินของตัวเองไว้นะคะ คงฝากความหวังกับระบบราชการไม่ได้แล้วจริงๆๆ

คนร้าย แฮ๊ก ไลน์ เจ้าของแอ๊คเคาท์
แฮ๊คไลน์ไปยืมเงิน … วิธีการ จำนวนไม่เยอะ บอกเย็นใช้คืนเลย
เหยื่อจะเป็นเพื่อนสนิท ที่รักกันมาก พร้อมโอน เสียไปเลย
มันทำ คิวอาร์โคด ให้สแกนง่ายๆ ด้วย
บางครั้ง แกล้งโทรมา สองสามที แล้วตัดค่ะ ทำเป็นรีบ

ในยุคที่ไซเบอร์เป็นทุกอย่าง ไม่มีใครการันตีได้ว่าจะมีผู้ฉกฉวยผลประโยชน์จากฐานข้อมูลของเรา

แล้วเจาะข้อมูล เข้ามาในแอ๊คเคาท์ อ้างว่าเป็นตัวเรา หลอกขอยืมเงินคนไปทั่ว สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ สัมพันธภาพ ฯลฯ อีกทั้งสร้างความเดือดร้อนที่เราจะต้องลบแอ๊คเคาท์เดิมนั้นเลยแล้วมาสร้างใหม่  

ด้านความคืบหน้า เนื่องจากเป็นคดีจารกรรม ต้องอยู่ในระบบขั้นตอนการทำงาน ไม่ทราบว่านานเท่าไหร่  บัญชีปลายทางที่โอนไป ก็ต้องขอเอกสารอนุมัติหลากหลายอย่าง คาดว่ามิจฉาชีพคงเอาไปใช้ตามสบายแล้ว ครั้นจะสรุปว่าฟาดเคราะห์ก็เสียดายไป จึงฝากไว้เป็นอุทาหรณ์

ที่สุดปลายทางบัญชี กำลังสืบ และขอให้เจ้าตัวแสดงตัวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่มีแต่อย่างใด เพื่อขยายผลหาคนร้ายต่อไป

ท้ายที่สุด ใครที่โดนแบบนี้ รู้ไว้ ตั้งสติ อย่าปล่อยให้มิจฉาชีพลอยนวล… มันหลอกเพื่อนเรา

ให้ทำดังนี้ค่ะ

นำหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ (สน.ที่ได้โอนเงินให้เร็วที่สุดหรือภายใน 3 เดือนตั้งแต่วันที่รู้ว่าถูกโกง

แต่แนะนำให้ไปเข้าแจ้งความที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งจะมีความสามารถทางด้านเทคโนโลยีในการติดตามหาตัวคนร้ายได้รวดเร็ว