ไม่ได้เรียนเพื่อเป็นช้างเผือก แต่การเรียนต้องมาเป็นที่ 1 หมอริท เดอะสตาร์ บอกน้องๆ

 

เดินทางมาแพ๊พเดียวแต่ก็เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย สำหรับ หมอริท เดอะสตาร์ ที่ได้รับเชิญจากบ้านเกิด จ.ร้อยเอ็ด ให้ไปร่วมสร้างสีสันและพูดคุยกับน้องๆ เยาวชนในฐานะไอดอล เรียนก็เก่ง ร้องเพลงก็ดี ทำงานวงการบันเทิง ควบคู่ไปกับ เรียนแพทย์ สำเร็จจนเป็นคุณหมอดังฝัน แบบไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง เพอร์เฟคต์ขนาดนี้ อยากรู้แนวคิด แรงใจ ที่ทำให้คุณหมอริทมีวันนี้กันหรือเปล่า???

อันดับแรก สู้ตายยยย (ล้อเล่น)

ริท เดอะ สตาร์ หรือนายแพทย์เรืองฤทธิ์  เป็นคนร้อยเอ็ดเกิดและโตที่จังหวัดนี้ พี่ริทเล่าเส้นทางการเป็นศิลปินของเขาว่า เขาเริ่มต้นจากการประกวดร้องเพลงในรายการเดอะสตาร์ ในขณะที่เขาเป็นนักศึกษาปี 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยตั้งใจจะไปประกวดร้องเพลงเป็นเพื่อนของเพื่อนเท่านั้น แต่ในที่สุดพอได้มาเป็น 1 ใน 8 คนสุดท้ายของผู้เข้าแข่งขันค้นฟ้าคว้าดาวก็ต้องรู้จักแบ่งหน้าที่ด้านการเรียนและทำงานในวงการบันเทิงให้ดี

“ ตอนไปสมัครร้องเพลงไม่ได้เตรียมตัวไปเลย แต่เพื่อนๆ ชวนก็ไป เพื่อนๆ เข้าไปออดิชั่นเพียง 1 นาทีก็ออกมา แต่ริทเข้าไปนานเป็น 10 นาที เพื่อนๆ ที่ไปด้วยกันก็กลับกันหมดเพราะรู้ว่าตัวเองไม่ได้แล้ว ริทก็เข้ารอบแบบงง ๆ ไม่ได้เตรียมชุด เตรียมเพลงไปร้องเลย น่าจะได้เพราะดวงพามาทางนี้ พอผมเข้าสู่วงการบันเทิงก็มีงานเข้ามามากมาย ด้วยสาขาที่ผมเรียนก็ต้องรู้จักกับวิธีจัดการระบบชีวิตตัวเอง คือทำงานไปด้วยเรียนด้วย ในที่สุดผมก็สามารถเรียนจบแพทย์เกียรตินิยมอันดับ 2 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ จริงๆ จุดเริ่มต้นของการเป็นนักศึกษาแพทย์ของผมคือ ผมก็เป็นเด็กตั้งใจเรียนธรรมดา พอติดเดอะสตาร์มาแล้ว ใจหนึ่งก็บอกว่า ต้องสู้ต่อไป  ผมอดทนทำทั้ง 2 อย่างเพราะคือโอกาสที่ดีทั้งสองอย่าง เป็นเดอะสตาร์กับหมอ “ หมอริทเล่าเส้นทาง ชีวิตการเป็นนักร้องและนักศึกษาแพทย์ของเขาต่อว่า พอทำงานในวงการบันเทิงหนักเข้า และเขาอยากลองกับวงการบันเทิงสักตั้งหนึ่ง จึงตัดสินใจดรอปเรียนช่วงเรียนปี 1 กับ ปี 2 ถือเป็นจัดการชีวิตของเขาให้ลงตัวในช่วงเวลานั้น

“ ช่วงนั้นผมต้องจัดการกับชีวิตของผม จึงตัดสินใจดรอปเรียนไว้ก่อน ลุยสายบันเทิง และมีจุดพอทำงาน 2 ปีแล้ว ผมต้องกลับไปเรียน จึงเกิดคอนเสิร์ตอำลาขึ้น เพราะผมคิดว่าคงไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงต่อไปแล้ว เพราะได้ทำตามความฝันแล้ว รู้สึกว่าอิ่มระดับหนึ่งแล้ว ผมจึงกลับมาตั้งใจเรียน พอกลับมาเรียนแล้วก็ลองรับงานบ้าง รับแบบเล่นๆ เพราะรู้สึกคิดถึงวงการบันเทิง พอรับงานก็ต้องบินจากขอนแก่นช่วงวันศุกร์ ทำงานถึงวันอาทิตย์ แล้วก็บินกลับไปเรียนวันจันทร์ก็รู้สึกว่าผมไหว ผมก็จัดการชีวิตได้จนทำเป็นนิสัย จันทร์ถึงศุกร์เรียน วันเสาร์อาทิตย์รับงาน ” ซึ่งทุกอย่างก็ตั้งอยู่บนการมีระเบียบวินัยที่ดี

“ ริทคิดว่าการเป็นเดอะสตาร์ไม่ได้เป็นกันได้ทุกคน  แต่ทุกคนมีภาระหน้าที่อื่นๆ นอกจากการเรียน ไม่ต้องเรียนเพื่อเป็นหมอก็ได้ เรียนสาขาอะไรก็ได้ แต่ต้องทำกิจกรรมอื่น ๆด้วยเช่น  ช่วยที่บ้านขายของ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ซึ่งพี่อยากให้น้องๆ ทุกคนอดทน และตั้งใจ เราเรียนหนังสือแม้รู้สึกเหนื่อย ล้า หรือเบื่อ แต่ทุกอย่างคือ เพื่ออนาคตของเรา อย่าทำเล่นๆ กับเรื่องพวกนี้ แล้วให้ตั้งใจเรียน แต่อย่าเครียดหรือกดดันตัวเอง อย่างพี่หากรู้สึกเหนื่อยหรือเครียดก็ต้องขอเบรคเพื่อผ่อนคลาย เพื่อให้มีความสุข เพราะเรียนไม่ใช่แค่เรียน แต่เราควรทำทุกอย่างในชีวิตให้มีความสุขไปด้วย  ไม่ใช่เครียดกับการเรียนมากๆ ก็ทำให้เรียนได้ไม่ดี เพราะไม่มีความสุขอย่างแน่นอน ก็ต้องรีบหาจุดผ่อนคลาย หากใครมาร่วมงานแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ไม่อยากให้เครียด หรือรู้สึกกดดันแต่เราต้องรู้จักวิธีจัดการกับความเครียดและความกดดันนั้น เพราะความเครียดทำให้ ระบบกายภาพในร่างกายไม่ปกติ มีผลต่อเรื่องความจำ และการประมวลผลต่าง ๆ  การจัดการความคิดไม่ปกติ เราจึงต้องจัดการกับความเครียดให้ดี การเรียนก็จัดการให้ดี ไม่อย่างนั้นก็ทำได้ไม่ดี ”

สุดท้าย การเลือกอนาคตหรือเลือกการเรียนของตัวเอง อย่างน้อยๆ ควรได้ลงมือทำในสิ่งที่น้องๆ รัก

“ ตอนนี้พี่ได้เป็นคุณหมอแล้วควบคู่กับงานในวงการบันเทิง ต่อไปผมตั้งใจเรียนต่อด้านผิวหนังและความงามที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พี่ก็อยากฝากๆ ถึงน้องๆ พี่อยากเป็นกำลังใจให้น้องๆ การเรียนต้องมาเป็นอันดับหนึ่งของชีวิต ถือเป็นหน้าที่ของเด็กที่ต้องเรียนหนังสือ และเป็นหน้าที่ในช่วงวัยนี้ที่ต้องดูแลให้ดีที่สุด แต่อย่าเครียดอย่ากดดันตัวเอง เรียนพิเศษพอประมาณ เหลือเวลาให้ความสุขและสิ่งที่เราอยากทำบ้าง ไม่ใช่หมกมุ่นกับหนังสือตลอดเวลา ตอนพี่เรียนคติของพี่ก็คือ พี่แค่เรียนเพื่อให้เป็นนักเรียนที่สอบได้และเรียนอย่างมีความสุข ไม่ได้เรียนเพื่อเป็นช้างเผือก หรือเป็นที่ 1 หรือรู้ทุกอย่าง เมื่อตั้งใจแล้วก็ให้ไปในเป้าหมายที่เราตั้งใจไว้ให้ได้ แค่นั้นพอ และมีความสุขกับเส้นทางที่เราเดินแค่นั้น ”